ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำรวจพฤติกรรมการเผยแพร่ข่าวปลอมของคนไทย การเผยแพร่ข่าวปลอมของคนไทย ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 63 – 30 มิ.ย. 64 พบว่า มีจำนวนผู้โพสต์ข่าวปลอมถึง 587,039 คน และจำนวนผู้แชร์ข่าวปลอมมากกว่า 20,294,635 คน ส่วนกลุ่มที่มีพฤติกรรมดังกล่าวมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในช่วงอายุ 18-34 ปี โดยข้อมูลจากสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) ระบุว่า 5
สาเหตุหลักที่ทำให้คนเลือกเสพและแชร์ข่าวปลอม เกิดจาก
1. ตกหลุมพราง ผู้อ่านมีแนวโน้มที่จะแชร์ข่าวปลอม ที่ตรงกับความคิดความเชื่อของตนเองอยู่แล้ว คนสร้างข่าวปลอมตั้งใจแต่แรกที่จะหลอกผู้อ่านข่าว
2. ไม่สามารถแยกแยะข่าวบนหน้าเว็บได้ ปัจจุบันที่ผู้อ่านข่าวส่วนใหญ่ รับข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นสื่อที่ข่าวปลอมถูกทำให้กลมกลืนกับข่าวจริง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการจัดหน้า หรือการแอบอ้างเป็นแหล่งข่าว จึงทำให้ผู้อ่านสับสนและยากที่จะแยกแยะข่าวปลอม
3. เป็นกลไกของความเชื่อ เมื่อมีเพื่อนหรือคนในครอบครัว ส่งต่อข่าวมาให้อ่านผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ผู้อ่านมักจะไม่ตระหนักหรือใช้วิจารณญาณ ในการตรวจสอบข่าวนั้น ๆ ก่อน เพราะคิดว่าผู้ส่งคงกลั่นกรองมาเรียบร้อยแล้ว
4. ข่าวปลอมเล่นกับความรู้สึก มักใช้การเน้นพาดหัวที่หวือหวา เนื้อข่าวที่เร้าอารมณ์ เพราะรู้ว่าคนอ่านจะถูกกระตุ้นอารมณ์ให้มีปฏิกิริยาต่อข่าวนั้น ๆ เช่น การกดเข้าไปอ่าน กดไลก์ แสดงความเห็น และช่วยแชร์ข่าวออกไป
5. ผู้อ่านมีช่วงความสนใจสั้น อีกหนึ่งกลวิธีที่ใช้ในการเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข่าวที่มีคุณภาพต่ำ คือ การหาผลประโยชน์จากพฤติกรรม ‘นักอ่านเวลาน้อย’
วิธีสังเกตข่าวปลอม สามารถทำได้ โดยสังเกตการเรียบเรียงเนื้อข่าว และการสะกดคำต่างๆ เพราะข่าวปลอมมักจะสะกดผิด และมีการเรียบเรียงที่ไม่ดี, สังเกต URL โดยข่าวปลอมอาจมี URL คล้ายเว็บของสำนักข่าวจริง, ดูรายงานข่าวจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ ว่ามีข่าวแบบเดียวกันหรือไม่ โดยมีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบข่าวจากการเสิร์ชหาข้อมูล อาจพบว่าเป็นข่าวเก่า หรือพบการแจ้งเตือนจากเว็บไซต์อื่นว่าเป็นข่าวปลอม ข่าวปลอมอาจมีการนำรูปภาพจากข่าวเก่ามาใช้ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
ดังนั้น ทักษะที่ควรมีในการรู้เท่าทันข่าว ก็คือ มีวิจารณญาณแยกแยะได้ว่าข่าวใดเป็นข่าวปลอม มีทักษะในการวิเคราะห์และตรวจสอบ เพื่อที่จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องในการแสดงความคิดเห็น รู้จักประเมินและเลือกใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดสังคมประชาธิปไตย ที่ผู้คนแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและแสดงความคิดเห็นบนข้อเท็จจริงและเหตุผล
เครดิต เพจ Pk Cic ศูนย์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ Cic ภูเก็ต