สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาชิปขาดแคลน เป็นผลต่อเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา โรงงานผลิตชิปต้องปิดตัวลงชั่วคราว จนไม่สามารถส่งมอบชิปอย่างเพียงพอได้ แม้ว่าในช่วงหลังโรงงานผลิตชิปจะสามารถเริ่มการผลิตได้อย่างปกติอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ชิปมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการได้ เพราะปริมาณความต้องการชิปกลับเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในช่วงที่โควิด-19 ระบาด การทำงานที่บ้าน เพิ่มความต้องการในการซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ5G และการเปิดตัวเครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่ ยิ่งทำให้ความต้องการชิปเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กบางรายเช่น ASUS ได้ประกาศขึ้นราคาสูงขึ้นไปอีกขั้น ทำให้เกิดผลกระทบจากผู้บริโภค ส่วน กรณีของ Samsung ผู้ซื้อชิปรายใหญ่อันดับ 2 รองจาก Apple ยอมรับว่า “การขาดแคลนชิปเป็นปัญหาร้ายแรง และการแก้ปัญหานี้ให้ได้ 100% คงเป็นเรื่องยาก” นอกจากนี้ Samsung ยังเลือกที่จะไม่เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Galaxy Note ในปีนี้อีกด้วย แม้ Samsung จะยืนยันว่าต้องการลดการซับซ้อนของรุ่นโทรศัพท์ในตระกูล Galaxy มากกว่า
โดยโทรทัศน์ขนาดใหญ่ช่วงนี้ขึ้นราคาประมาณร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาตามการวิจัยตลาดของ บริษัท NPD ซึ่งต่อไปจะส่งผลกระทบต่อสินค้า Gadget ต่าง ๆ ที่ใช้ชิปจากแหล่งเดียวกันเช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน ชุดหูฟัง VR
ด้าน ผู้ผลิตรถยนต์ ก็ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิปไปด้วย เพราะรถยนต์ในยุคสมัยต้องอาศัยชิปเพื่อการประมวลผลด้วยเช่นกัน อย่าง Ford เอง ก็ต้องปิดโรงงาน 2 แห่ง เพราะขาดแคลนชิปที่ใช้ในการผลิต และ Ford ก็คาดการณ์ว่าจะสร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ส่วน Nissan ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ก็ต้องปิดโรงงานในแม็กซิโก และสหรัฐอเมริกาชั่วคราวเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามในปีที่แล้วผู้ผลิตรถยนต์หลายรายได้ปรับลดปริมาณคำสั่งซื้อชิปลง จากยอดขายรถยนต์ที่ลดลงเพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่ในปีนี้กลายเป็นว่าผู้ผลิตรถยนต์ที่เคยลดการสั่งซื้อชิปไปในปีที่แล้ว ต้องไปต่อคิวรอชิปหลังผู้ผลิตรายอื่นๆ ตามกำลังการผลิตชิปที่มี